“รูปแบบและอาการต่างๆ ของโรคไข้ข้อเสื่อมและเกาต์นั้น
ล้วนเป็นผลมาจากการสะสมตัวของกรดในข้อต่อ
ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานจะมีอาการที่รุนแรงกว่า
เพราะน้ำหนักตัวของเขาจะไปเพิ่มแรงกดบนข้อต่อ
ซึ่งจะเป็นการเร่งการสึกหรอ การเสื่อมลงอย่างรวดเร็วของข้อต่ออีกด้วย
ในขณะที่คนหนุ่มสาวที่มีน้ำหนักตัวมากอาจจะยังไม่แสดงอาการ
ของโรคชัดเจนเท่าที่ควร การสะสมตัวของกรดจะทำให้กระดูกอ่อนถูกทำลาย
และเกิดการระคายเคืองในข้อต่อ ซึ่งโชคร้ายเป็นอย่างยิ่งที่ข้อต่อ
เป็นบริเวณที่เลือดไม่สามารถที่จะเข้าไปพาเอาของเสียออกมาได้โดยง่าย
โรคเกาต์เกิดจากการสะสมตัวของกรดยูริคในข้อต่อ
ตามที่ Webster ได้ให้ความหมายของโรคเกาต์ไว้ว่า
โรคเกาต์เป็นโรคที่เกิดจากที่กระบวนการเมตาบอริซึม (การเผาผลาญ)
ของร่างกายถูกรบกวน ซึ่งจะถูกแสดงผลด้วยการเพิ่มขึ้น
ของปริมาณกรดยูริคในกระแสเลือด และการสะสมของเกลือของ
กรดยูริคในเนื้อเยื่อรอบๆ ข้อต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มือและเท้า
นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการปวดบวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นิ้วโป้งเท้า
การรักษาทางการแพทย์ทุกวันนี้ ยังคงไม่ได้รับผลตอบสนองต่อการรักษา
ที่ดีอีกทั้งยังเกิดการทรุดลงของโรค นั่นก็คือ ยังคงมีอาการปวดอยู่
และหนึ่งในสิ่งที่ใช้แก้อาการปวดนั่นคือ แอสไพริน
ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นกรดชนิดหนึ่ง และถ้ามีการใช้งานต่อเนื่อง
ในอนาคตจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองในข้อต่อ
เมื่อเร็วๆนี้ พวกเรายอมรับเกี่ยวกับความเป็นจริงของโรคนี้
ซึ่งเป็นผลของการมีกรดของเสียที่มากเกินไป
เมื่อเร็วๆนี้พวกเราจะค้นพบทางแก้สำหรับปัญหานี้
จากหน้าที่ 58 ของหนังสือ “Reverse Aging” –ของ Dr. Sang Whang
น้ำอัลคาไลน์นำละลายกรดยูริคได้มากกว่า
ตั้งแต่ที่เราทราบว่ากรดยูริคเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐาน
ของอาการปวดในผู้ป่วยโรคเกาต์
ดังนั้นการควบคุมการผลิตกรดยูริค คือ
กุญแจสำคัญที่จะทำให้อาการต่างๆเหล่านี้อยู่ในการควบคุม
ในขณะนี้หนึ่งในเทคนิคที่ได้มีการนำมาใช้และ
ได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจ คือ การปรับ
ระดับค่า pH (ความเป็นกรดด่าง)
ของร่างกายเพื่อที่จะปรับให้มีการผลิตกรดยูริคในปริมาณและสภาวะที่เหมาะสม
pH เป็นค่ามาตรฐานสำหรับกำลังของไฮโดรเจน
และสามารถอ้างอิงถึงระดับกรดในร่างกาย เมื่อระดับ pH
ของร่างกายเพิ่มสูงขึ้น นั่นคือ
ร่างกายของเราจะอยู่ในสภาวะอัลคาไลน์
ในขณะที่มีระดับ pH ต่ำลงจะทำให้ร่างกายเป็นกรด
ดังนั้น เมื่อระดับค่า pH ของร่างกายเพิ่มขึ้น
คุณจะได้รับผลลัพท์ที่เกิดจากการบำบัดโรคเกาต์ซึ่งเป็นวิธีทางธรรมชาติ
ทฤษฎีนี้ถูกคิดค้นขึ้นจากการสร้างให้ร่างกายเกิดสภาวะอัลคาไลน์
และปริมาณกรดยูริคจะถูกทำให้ลดลง
นั่นเป็นเพราะว่ากรดยูริคสามารถถูกทำให้เจือจาง
โดยการดื่มน้ำและความเป็นอัลคาไลน์ของร่างกาย
ซึ่งจะทำให้กรดยูริคกลายมาเป็นสารละลายน้ำ-กรดยูริค
ดังนั้นถ้าอัตราส่วนของอัลคาไลน์สูงกว่ากรดในร่างกาย
จะทำให้ร่างกายมีค่าpHที่สูงกว่า (หรือ เลขในสเกลของเคื่องวัดpH)
และยูริคจะถูกละลายในน้ำที่คุณดื่ม
ถ้าระดับกรดยูริคของร่างกายถูกรักษาให้คงไว้ที่ระดับต่ำ (6.00 mg/dl
สำหรับผู้ชายและต่ำกว่านี้เพียงเล็กน้อยสำหรับผู้หญิง)
จะทำให้การรวมตัวของผลึกโรคเกาต์เกิดขึ้นได้น้อยมาก
ซึ่งเป็นผลจากการที่ได้สร้างให้ร่างกายเป็นอัลคาไลน์มากขึ้น
วิธีการทั่วไปที่สะดวกที่สุดคือการดื่มน้ำอัลคาไลน์
ซึ่งน้ำนี่จะมี OH- และออกซิเจนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะต่อต้านO2
คุณสามารถนำน้ำนี้ดื่มหรือนำไปทำอาหารก็ได้
ข้อมูลจาก www.h2olifesource.co.th
น้ำเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญต่อร่างกายมากๆ ส่งผลในเรื่องของสุขภาพหลายๆด้าน เราจึงไม่ควรละเลยในเรื่องของการดื่มน้ำ พิจารณาก่อนดื่มทุกครั้งว่า น้ำที่เราดื่มส่งผลดีหรือเสียต่อสุขภาพ จึงขอแนะนำ เครื่องกรองน้ำ กิฟฟารีนอัลคาไลน์ (บทความนี้มีประโยชน์มากๆค่ะ)
ตอบลบ